[The Maze Runner]Together{Minho x Newt} - [The Maze Runner]Together{Minho x Newt} นิยาย [The Maze Runner]Together{Minho x Newt} : Dek-D.com - Writer

    [The Maze Runner]Together{Minho x Newt}

    The maze runner fanfiction

    ผู้เข้าชมรวม

    364

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    364

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    13
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.ย. 57 / 23:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    THE MAZE RUNNER

    MINHO X NEWT

    TOGETHER


    WARNIN'-- THIS FICTION IS BOYS LOVE IF YOU DON'T LIKE PLEASE PRESS [X]
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิวท์อยู่ที่นี่มา 3 ปี

      นิวท์ติดอยู่ในวงกตนี้มา 3 ปี

      นิวท์ใช้ชีวิตเช่นนี้เป็นเวลา 3 ปี

      และนิวท์เฝ้ามองใครคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหาอันตรายในวงกตนั่นเป็นเวลา 3 ปีเช่นกัน

      แต่ระยะเวลาที่เขาอยู่นั้นมันไม่ได้ทำให้เขาสามารถทำใจให้ชินกับมันได้เลย

      เขาไม่เคยชินกับการติดอยู่ในวงกตที่สลับซับซ้อนนี่

      เขาไม่เคยชินกับการใช้ชีวิตอยู่ในวงกตที่ไร้ทางออก

      เขาไม่เคยชินกับการใช้ชีวิตในวงกตนี่โดยไม่รู้ว่าวิถีชีวิตด้านนอกเป็นอย่างไร

      และเขาไม่มีวันเคยชินกับการมองใครคนหนึ่งที่วิ่งเข้าไปในวงกตที่เต็มไปด้วยอันตรายทุกวัน โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่วิ่งออกไปจะปลอดภัยไหม แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย

      วันนี้ก็เช่นกันมีผู้ถูกกรีฟเวอร์ต่อยตอนกลางวันแสกๆ ยิ่งตอกย้ำเขามากขึ้น ว่าเขาไม่สามารถทำใจให้ชินกับการใช้ชีวิตอยู่ในนี้ได้เลย และทุกครั้งเมื่อมีคนถูกกรีฟเวอร์ต่อย คนนั้นจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่บ้าคลั่งและเป็นพาหะ สุดท้ายก็ถูกขับไล่ให้ออกจากที่ที่พวกเขาอยู่ ไปสู่วงกตด้านนอกซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายโดยเฉพาะกรีฟเวอร์

      ไม่มีเคยเคยเห็นกรีฟเวอร์ และคนที่เคยเห็นก็ไม่มีใครอยู่อธิบายสักคน ไม่บ้าคลั่ง ก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ไม่มีใครเคยรอดกลับมา เพราะฉะนั้นการไล่ให้ผู้ติดเชื้ออกไปสู่วงกต ก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่า เพราะก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่เคยมีใครที่อยู่ในวงกตนอกเหนือจากที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนกลางคืนจะรอดชีวิตสักราย และเขากลัวว่าสักวันใครคนนั้นของเขาจะเป็น

      “นายเหม่ออะไรอยู่น่ะนิวท์”เสียงที่ทักจากข้างหลังทำเอาเขาสะดุ้งขึ้นมาเบาๆ จนเกือบร้องว่าคน้างหลัง แต่หันไปก็พบ มินโฮ หนุ่มเชื้อสายเอเชีย ผู้เป็นหัวหน้ารันเนอร์ยืนถือตะเกียงอยู่

      “คิดอะไรนิดหน่อย แล้วนายมาทำอะไร”เขาถามมินโฮ แต่คนร่างสูงก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่หันไปทางด้านหลังของตนเองที่มีกลุ่มชาวทุ่งกำลังกวักมือเรียกอยู่ รวมถึงโทมัสเด็กใหม่ ที่กล่องเพิ่งส่งขึ้นมาให้เมื่อ 2 วันที่แล้ว

      “โอเค มินโฮ วันนี้มีอะไรใหม่ๆบ้างไหม”เขาถามมินโฮ ที่มองเขายิ้มอยู่ มีอะไรติดหน้ารึไงนะ

      “ไม่มี”มินโฮตอบเสียงเรียบสั้นตามแบบปกติ แต่แค่นั้นเขาก็โอเคแล้ว เพราะเขาไม่หวังให้มินโฮพูดเพราะๆ หรืออ่อนโยนกับเขาเท่าไหร่นักหรอก ก็เป็นนักวิ่งนี่นา จะให้ทำอะไรแบบนั้นก็คงไม่ใช่เท่าไร

      “แล้วนายมองอะไรเนี่ย”เขาถามมินโอที่ยังไม่ยอมละสายตาจากเขาสักที เขานำมือของเขาเองไปจับหน้า และผมตัวเองแต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรติดอยู่ จนเขาอสงสัยไม่ได้ว่าคนข้างหน้ามองอะไร

      “มองนายไง อยากมองเฉยๆ”มินโฮตอบ ทำเอาเขาอดที่จะเขินไม่ได้แฮะ รู้สึกหน้าร้อนๆขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก ใช่ เขากับมินโฮมีความรู้สึกพิเศษให้กัน แต่จะเรียกว่าคนรักก็แปลกๆ เรียกว่าสนิทละกัน

      “นั่นแหละมองทำไม ปกติไม่เป็นงี้นี่”เขาถามกลับ มันรู้สึกแปลกจริงๆนะ เวลามีคนมาทำแบบนี้ เพราะปกติเวลาที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยจะมี เพราะอย่างนั้นการจะมาสวีทกัน หรือทำอะไรแบบคู่รัก(แบบที่เขาคาดว่าจะเป็น)ทำ ก็คงไม่ใช่ เลยอดแปลกใจไม่ได้

      “ไม่รู้สิแค่อยากมอง ไม่รู้ว่าจะได้มองอย่างนี้นานแค่ไหน กลัวว่าจะไม่ได้มองอีกแล้ว สังหรณ์ใจแปลกๆ”มินโฮตอบเสียงเบา จนเขาอดใจกระตุกไม่ได้ เหมือนอะไรบางอย่างมันแน่นอยู่ เขาไม่อยากคิดมาก แต่ก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้ และเมื่อคิดต่อไป แล้วเผลอคิดว่าพรุ่งนี้คนตรงหน้าจะไม่กลับมา มันแย่เสียจนเขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว

      “อย่าพูดอย่างนั้นสิ ไหนสัญญาว่าจะกลับมาให้ได้ทุกวัน”เขาทวงสัญญาที่เคยให้ไว้ เขาไม่ได้อยากทวงหรอก แต่เขาทำใจยอมรับไม่ได้หรอก ว่ามินโฮจะไม่กลับมาหาเขาอีกแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมาย แต่ยังไงร่างสูงตรงหน้าก็สำคัญต่อเขาที่สุดอยู่ดี

      “ฉันก็พยายามที่จะกลับมา แต่นายก็รู้ว่าบางครั้ง บางสิ่งเราเลี่ยงมันไม่ได้จริงๆ”มินโฮก้มหน้า ทั้งที่ปกติตะเกียงให้แสงสว่างได้ชัดเจนเสมอแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้แสงถึงได้ดูหม่นขนาดนี้นะ

      “อืม แต่พยายามกลับมานะ”สุดท้ายก็เป็นตัวเขาเองที่ต้องยอมรับ คนอื่นบริเวณรอบกองไฟเริ่มเรียกพวกเขาอีกครั้ง ไม่มีประโยคสนทนาใดๆเกิดขึ้นระหว่างเขาสองคนอีก จนหมดค่ำคืน

      เวลารุ่งสาง

      เขาเดินออกมาบริเวณประตูเขาวงกตเช่นทุกวัน แต่ลึกๆแล้วเขาก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารู้สึกแปลก

      “ยังไม่เลิกคิดมากหรือไง”มินโฮเดินออกมาในชุดเตรียมพร้อม แต่ที่แปลกกว่าทุกวันคือวันนี้มินโฮออกไปกับอัลบี้เพียงสองคน แต่เขาก็ไม่คิดจะซักไซ้อะไรมากนัก

      “ก็พยายามอยู่”เขาตอบเรียบๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี เพราะเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากภาวนาให้มินโฮกลับมาอย่างปลอดภัย

      “อืม ดีแล้ว”มินโฮตอบรับ แล้ววิ่งเหยาะๆไปหน้าประตูที่กำลังจะเปืดออกในไม่ช้าเพื่อวิ่งออกไป แต่เขาก็เรียกไว้

      “มินโฮ นายต้องกลับมานะ”เขาไม่อยากคาดคั้น แต่เขาอยากให้มินโฮกลับมาหาเขาในเย็นนี้เหมือนปกติ ทั้งที่ปกติก็ไม่ได้พูดอย่างนี้

      “ก็พยายามอยู่”มินโฮย้อนคำที่เขาพูดพร้อมยิ้มกวนๆ ก่อนจะวิ่งออกไปเมื่อประตูเปิดขึ้น

      วันนี้ทั้งวันเขาก็ใช้ชีวิตปกติ ทำงาน ทำสวน แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขาถึงคิดถึงมินโฮผิดปกติ อดสังหรณ์ใจแปลกๆแบบที่มินโฮพูดไม่ได้ ขณะที่เขากำลังทำงานอยู่ อยู่ดีๆฝนก็เทลงมา ชาวทุ่งทั้งหมดรวมถึงตัวเขาเองก็รีบวิ่งเข้าไปหลบฝนในร่ม แต่ฝนก็ไม่มีทีท่าจะหยุดสักที จนถึงเวลาที่ค่อนข้างเย็น เวลาที่พวกนักวิ่งควรจะกลับมาได้แล้ว ฝนถึงหยุด พวกชาวทุ่งรวมถึงเขาเดินออกไปรอที่ประตูเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ทั้งที่ใกล้จะถึงเวลาที่ประตูจะปิดแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววของมินโฮและอัลบี้

      ประตูเริ่มเคลื่อนที่ แต่เขาก็ยังไม่เห็นทั้งคู่ ช่องประตูแคบลงเรื่อย แต่แล้วเขาก็เห็นมินโฮ พยุงอัลบี้มา และพยายามวิ่งให้ทันประตู ชาวทุ่งส่งเสียงให้กำลังใจ รวมถึงตัวเขาเอง เขาได้แต่ภาวนาให้มินโฮ พาอัลบี้กลับมาได้ แต่ยิ่งภาวนาโอกาสก็น้อยลง ช่องประตูแคบลง แม้เขาจะเห็นคนทั้งคู่ลิบๆ แต่แล้วโทมัสก็รีบวิ่งเข้าไปข้างใน เพื่อช่วยทั้งคู่ แต่นั่นเป็นกระทำที่สิ้นคิดที่สุดเพราะเมื่อโทมัสเข้าไป...ประตูก็ปิดลงแล้ว

      โทมัส อัลบี้ และมินโฮติดอยู่ในวงกตบ้าๆนั่น และโอกาสที่จะกลับมาก็ริบหรี่เสียเหลือเกิน

      ชาวทุ่งทุกคนทำหน้าเศร้า และพากันเดินออกไปอย่างสิ้นหวัง แล้วกลับไปก่อกองไฟ เพื่อเริ่มต้นมื้อเย็น

      มื้อเย็นวันนี้เขาไม่แตะต้องมันแม้แต่น้อย เขาเดินออกไปอยู่ในมุมคนเดียว ทรุดตัวนั่งลงกับผนังหิน กอดเข่าตัวเองไว้ และร้องไห้ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรทำอบย่างไรดี เพราะตอนนี้เหมือนเขากำลังเสียเพื่อนไป 2 คน และที่แย่กว่านั้นเขากำลังเสียมินโฮไป  แม้ว่าไม่รู้ว่าข้างในเป็นเช่นไร แต่พวกเขาก็รู้ดี ไม่เคยมีใครรอดข้ามคืนในเขาวงกต

      น้ำตาที่ไหลออกมา มันไม่ได้ช่วยให้เขาดีขึ้นเลย ปกติอากาศที่นี่ไม่ได้หนาวนัก แต่คืนนี้กลับหนาวจนเขาอดสั่นไม่ได้ เขาเกลียดเขาวงกตบ้าๆนี่ เขาไม่เข้าใจว่าพวกที่มันจับพวกเขาเข้ามาเพื่ออะไร เขาอยากจะตายๆให้จบเรื่องไป แต่เขาก็ทำไม่ได้

      เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เขาได้ยินเสียงกรีฟเวอร์จากด้านนอก ตอนนี้มันสักตัวอาจจะกำลังรุมพวกนั้นอยู่ หรืออะไรพวกนั้น เมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่ เขาไม่สามารถห้ามน้ำตาที่ไหลออกมาได้จริงๆ

      เมื่อถึงเวลาเข้านอน เขาก็เข้านอนปกติ แต่เขาไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ด้วยซ้ำ ได้แต่ภาวนา และอ้อนวอนใครสักคน ช่วยดลบันดาลให้เพื่อนเขากลับมา ช่วยทำให้มินโฮกลับมา ช่วยทำให้มินโฮปลอดภัย ใครก็ได้ ได้โปรด....

      ตอนเช้า

      เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยน้ำตา ชัคเรียกชาวทุ่งทุกคนให้ไปรอหน้าประตูเผื่อ โทมัส มินโฮ และอัลบี้จะกลับมา เขาก็ภาวนาเช่นนั้น แต่เมื่อรอจนประตูเปิดแล้ว และรอสักพักก็ไม่เห็นวี่แววของทั้ง 3 คนนั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำเขาว่าเขาไม่มีความหวังแล้ว มินโฮจากเขาไปแล้ว

      แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดได้เสมอ มินโฮและโทมัสพยุงอัลบี้ และเดินออกมาจากเขาวงกต เขาเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองจะดีใจได้ขนาดนี้ เหมือนทุกอย่างมันสว่างขึ้นมา พวกหมอรับอัลบี้ไปดูแล เขาได้ยินว่าอัลบี้ที่กรีฟเวอร์ต่อยก็ทำให้เขาอดรู้สึกแย่ไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าพวกเขาไม่รอดกลับมา

      มินโฮเดินมาทางเขา แล้วยิ้มให้ โทมัสก็เช่นกัน พวกชาวทุ่งเดินเข้าไปล้อมรอบทั้ง2คน เขาจึงเลือกปลีกตัวออกมา เพราะอย่างน้อยเขาก็สบายใจแล้วที่มินโฮปลอดภัย แล้ว2คนนั้น จะไปล้างหน้าล้างตาที่ลำธาร และได้ยินคนอื่นๆบอกว่าเดี๋ยวมินโฮ และโทมัสจะออกไปอีกครั้ง แต่ไม่ไกล

      ถึงแม้ในใจเขาจะไม่อยากให้มินโฮไปแค่ไหน แต่เขาก็รู้ว่าเขาห้ามไม่ได้ แต่เขาก็รู้สึกดีกว่าเมื่อวาน

      มินโฮ และโทมัสกลับมาก่อนเวลาประตูปิดค่อนข้างนาน ทั้งคู่ได้เบาะแสใหม่ เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่คล้ายเครื่องจับเวลา แต่ทั้งคู่ยืนยันว่าจะไม่คุยกันเรื่องนี้ในวันนี้ มื้อเย็นรอบกองไฟถูกจัดขึ้นเหมือนทุกวัน แต่วันนี้กลับดูสนุกสนานเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งผู้รอดชีวิตจากวงกต และเบาะแสที่อาจจะนำไปสู่ทางออก เขานั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่ก็ยินดีไปกับข่าวดีที่มี

      “กลับมาแล้วนะ”มินโฮเดินมาข้างเขาก่อนจะจูงมือเขาให้ลุกขึ้นเพื่อหาสถานที่ส่วนตัวเพื่อคุยกัน เพราะยังไงก็ไม่มีคนสังเกตอยู่แล้ว

      “นายเป็นไงบ้าง”เขาถามประโยคสั้นๆ อันที่จริงตอนนี้เขาไม่อยากรู้อะไรแล้ว แค่มินโฮกลับมาและปลอดภัยเขาก็ดีใจแล้ว

      “ก็ดี เกือบตายแน่ะ แต่ก็กลับมาแล้ว มาหานายแล้ว”มินโฮบอกก่อนเอื้อมมือมาลูบผมของเขาเบาๆ ตอนนี้มินโฮจะทำอะไร เขาให้หมดแหละ

      “กอดหน่อยสิ”มินโฮพูด แล้วเดินมาดึงเขาเข้าไปในอ้อมกอด จนตัวเขาเองก็จมไปกับร่างสูงใหญ่ของคนตรงหน้า เขายอมรับเลยว่าตอนนี้เขาเขินมาก แต่มันก็รู้สึกดีมากๆเช่นกัน

      “ได้เบาะแสเพิ่มแล้ว สัญญานะว่าจะออกไปจากวงกตๆบ้านี่ด้วยกัน”เขาพูดอู้อี้ในแขนคนตรงหน้า มืออุ่นๆลูบหัวเขาเบาๆ เขารู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

      “สัญญา ฉันจะพานายออกไปจากที่นี่ ฉันไม่มีวันทิ้งนายแน่นอน”มินโฮตอบรับคำสัญญา แล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขายกมือเล็กกอดตอบมินโฮ แล้วลูบหลังเบาๆ

      “อื้ม”เขาตอบรับเบาแล้วซบหน้าลงกับไหล่ของมินโฮ ถึงแม้ว่าในที่ที่เขาอยู่มันจำเป็นที่ต้องไว้ใจกัน แต่เขาก็ไม่ค่อยได้ไว้ใจ หรือมั่นใจกับใครเท่าไหร่ แต่กับมินโฮเขาเชื่อมากกว่าใครๆ และมินโฮจะทำอย่างนั้น เขาเชื่อ เพราะเขาได้ให้ใจกับคนคนนี้ไปแล้ว....

      -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
      สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นฟิคจากหนังเรื่อง the maze runner คู่ มินโฮ x นิวท์ ค่ะ อาจจะสปอยนิดหน่อย และค่อนข้างเวิ่นเว้อ+หลุดคาแรคเตอร์ไปหน่อย อย่าว่ากันเนอะ... อ่านให้สนุกนะคะ 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×